การตั้งชื่อสำหรับตัวแปรและโฟลเดอร์ในโปรเจกต์มีความสำคัญมากในการรักษาความอ่านง่ายและความเป็นระเบียบของโค้ด ต่อไปนี้คือลักษณะและกฎทั่วไปในการตั้งชื่อ:
ใช้ camelCase: สำหรับตัวแปร, ฟังก์ชัน, และชื่อของ props หรือ state variables เช่น:
ตั้งชื่อให้ชัดเจน: ชื่อของตัวแปรควรสื่อความหมายให้ชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่หรือข้อมูลที่มันเก็บ เช่น:
ใช้ชื่อที่สื่อถึงประเภทข้อมูล: หากมีหลายประเภทข้อมูลในตัวแปรเดียวกัน เช่น:
หลีกเลี่ยงการใช้ตัวย่อ: ใช้ชื่อเต็มเพื่อความชัดเจน เช่น:
ใช้ kebab-case หรือ snake_case: สำหรับชื่อของโฟลเดอร์ เช่น:
ตั้งชื่อให้สื่อความหมาย: ชื่อของโฟลเดอร์ควรสื่อถึงเนื้อหาหรือฟังก์ชันการทำงานของโฟลเดอร์นั้น เช่น:
ใช้รูปแบบที่สม่ำเสมอ: รักษารูปแบบการตั้งชื่อที่สม่ำเสมอในทั้งโปรเจกต์ เพื่อความเป็นระเบียบ เช่น:
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อทั่วไปหรือคลุมเครือ: ใช้ชื่อที่บ่งบอกถึงเนื้อหาหรือฟังก์ชันของโฟลเดอร์ เช่น:
โฟลเดอร์:
src/ ├── components/ │ ├── Button.tsx │ └── Header.tsx ├── hooks/ │ └── useFetch.ts ├── services/ │ └── apiService.ts ├── stores/ │ ├── auth/ │ │ ├── useAuthStore.ts │ │ └── authTypes.ts │ ├── user/ │ │ ├── useUserStore.ts │ │ └── userTypes.ts │ ├── product/ │ │ ├── useProductStore.ts │ │ └── productTypes.ts │ └── cart/ │ ├── useCartStore.ts │ └── cartTypes.ts └── index.ts
ตัวแปร:
// ตัวอย่างใน useAuthStore.ts interface AuthState { isAuthenticated: boolean; user: string | null; login: (username: string) => void; logout: () => void; } // ตัวอย่างใน useUserStore.ts interface UserState { name: string; email: string; updateUser: (name: string, email: string) => void; }
การใช้กฎการตั้งชื่อที่ดีจะช่วยให้โค้ดของคุณดูเป็นระเบียบและเข้าใจง่ายขึ้น
การตั้งชื่อค่าคอนฟิกหรือค่าคงที่เช่น DATABASE_CONFIG ควรปฏิบัติตามหลักการที่ช่วยให้เข้าใจง่ายและตรงตามวัตถุประสงค์ นี่คือกฎในการตั้งชื่อค่าคอนฟิก:
ใช้รูปแบบ UPPER_SNAKE_CASE: ชื่อของค่าคอนฟิกหรือค่าคงที่ควรใช้รูปแบบ UPPER_SNAKE_CASE เพื่อแสดงให้เห็นว่านี่คือค่าคงที่และไม่ควรถูกเปลี่ยนแปลง เช่น:
สื่อความหมายได้ชัดเจน: ชื่อของค่าคอนฟิกควรบ่งบอกถึงการใช้งานหรือวัตถุประสงค์ของมัน เช่น:
รวมคอนเท็กซ์และการใช้งาน: ค่าคอนฟิกควรมีชื่อที่รวมคอนเท็กซ์หรือการใช้งานเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย เช่น:
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่คลุมเครือ: ชื่อของค่าคอนฟิกควรเฉพาะเจาะจงและไม่ควรใช้ชื่อที่คลุมเครือหรือทั่วไปเกินไป เช่น:
ใช้คำที่สื่อถึงประเภทของค่า: ชื่อค่าคอนฟิกควรสื่อถึงประเภทของค่า เช่น ค่าเชิงตัวเลข, สตริง, หรือ Boolean เป็นต้น เช่น:
ไฟล์คอนฟิก
// ตัวอย่างในไฟล์ config.ts export const DATABASE_CONFIG = { HOST: 'localhost', PORT: 5432, USER: 'dbuser', PASSWORD: 'password', DATABASE_NAME: 'mydatabase' }; export const API_CONFIG = { BASE_URL: 'https://api.example.com', TIMEOUT: 5000, // Timeout in milliseconds API_KEY: 'your-api-key-here' }; export const APP_SETTINGS = { MAX_RETRY_ATTEMPTS: 3, SESSION_TIMEOUT: 3600, // Timeout in seconds ENABLE_LOGGING: true };
การใช้ค่าคอนฟิกในโค้ด
import { DATABASE_CONFIG, API_CONFIG, APP_SETTINGS } from './config'; // การใช้ค่าคอนฟิกในการเชื่อมต่อฐานข้อมูล const dbConnection = connectToDatabase({ host: DATABASE_CONFIG.HOST, port: DATABASE_CONFIG.PORT, user: DATABASE_CONFIG.USER, password: DATABASE_CONFIG.PASSWORD, database: DATABASE_CONFIG.DATABASE_NAME }); // การใช้ค่าคอนฟิกสำหรับ API const fetchData = async () => { try { const response = await fetch(API_CONFIG.BASE_URL '/data', { method: 'GET', headers: { 'Authorization': `Bearer ${API_CONFIG.API_KEY}` }, timeout: API_CONFIG.TIMEOUT }); const data = await response.json(); return data; } catch (error) { if (APP_SETTINGS.ENABLE_LOGGING) { console.error('Error fetching data:', error); } throw error; } };
การใช้หลักการเหล่านี้จะช่วยให้คุณตั้งชื่อค่าคอนฟิกอย่างมีระเบียบและเข้าใจง่ายครับ
부인 성명: 제공된 모든 리소스는 부분적으로 인터넷에서 가져온 것입니다. 귀하의 저작권이나 기타 권리 및 이익이 침해된 경우 자세한 이유를 설명하고 저작권 또는 권리 및 이익에 대한 증거를 제공한 후 이메일([email protected])로 보내주십시오. 최대한 빨리 처리해 드리겠습니다.
Copyright© 2022 湘ICP备2022001581号-3